✨🦖🛒การทดสอบความหนาแน่นของชั้นดิน (Field density test)🎯 เพื่อเปรียบเทียบกับความหนาแน่นที่ได้จากการทดสอบในห้องแล็บ🛒 จุดประสงค์ของการทดสอบ เพื่อประเมินความหนาแน่นของดินในสนาม📢 ว่าภายหลังการบดอัดพื้นที่ด้วยเครื่องมือต่างๆ นั้นพื้นที่นั้นมีความหนาแน่นสามารถรับน้ำหนักได้ตามข้อกำหนดที่คำนวณไว้หรือไม่✅
📌🛒📌โดยทั่วไปการทดสอบหาค่าความหนาแน่นแห้งของดิน✨ คือ การหาค่าความหนาแน่นเปียกและปริมาณความชื้นในดิน📢 ในการทดสอบหาค่าความหนาแน่นของดินในสนาม🌏 จะมีอยู่ด้วยกัน สามวิธี🥇 คือ
🌏🌏🌏👉1. วิธีกรวยทราย🥇วิธีนี้ใช้ทรายในการหาปริมาตรของหลุม🌏โดยทรายที่ใช้คือ ทราย Ottawa Sand🥇 ซึ่งขนาดของเม็ดทรายจะมีลักษณะกลมและเท่ากัน🛒 หรือจะใช้ทรายที่ร่อนผ่านตะแกรงเบอร์ 20 ค้างตะแกรงเบอร์ 30 ก็ได้🎯 เพื่อที่จะให้ผลของความหนาแน่นที่เท่ากันโดยตลอดและไม่เกิดการแยกตัวของเม็ดหยาบและเม็ดเล็ก (Segregation) ขณะทำการทดสอบ🌏
🥇🥇🥇🥇2. วิธีลูกโป่งยาง📢วิธีนี้ใช้น้ำในการหาปริมาตรของหลุม✨ ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่าวิธีแรก👉 ในการทดสอบต้องใช้ลมในการบีบอัดน้ำลงไปในหลุมทดสอบ📢 ลมช่วยให้น้ำในลูกโป่งแนบสนิทกับก้นหลุมและได้ค่าปริมาตรที่แม่นยำ✅
⚡⚡⚡📌3. วิธีนิวเคลียร์✨เป็นการหาค่าความหนาแน่นของดินและปริมาณความชื้นของดินบดอัดแห้ง หาความหนาแน่นเปียกของดิน🌏 โดยใช้รังสีแกมม่า🌏ส่งผ่านดินที่ต้องการ ก่อนที่จะเข้าที่รับรังสี🥇 ถ้ารังสีสะท้อนกลับไปเครื่องรับมาก แสดงว่าดินมีความหนาแน่นสูง ส่วนการหาปริมาณความชื้นโดยใช้นิวตรอน (Newtron)✨ส่งผ่านเข้าไปในดินและสะท้อนไปยังเครื่องรับช้าแสดงว่าปริมาณน้ำในมวลดินมีมาก วิธีนี้จะสะดวกและรวดเร็วให้ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายสูง🦖
🦖🛒🎯⚡🛒🦖✅⚡
Quoteบริการ Soil Boring Test✅ | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท ทดสอบดิน🦖 บริการ รับเจาะดิน🦖 วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Test)
👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
🛒✅🌏✅⚡📌⚡⚡
การก่อสร้างทางหลวง🎯 สนามบินขนาดใหญ่🥇 เขื่อนดิน🎯 พื้นที่โรงงาน ฯลฯ📢 จะต้องบดอัดด้วยเครื่องมือต่างๆ ตามชนิดและประเภทของวัสดุที่นำมาใช้ในการก่อสร้าง📢 หลังจากบดอัดได้ที่แล้วก็จะต้องมีการตรวจสอบผลของการบดอัดนั้นว่ามีความแน่นสามารถรับน้ำหนักได้ตามข้อกำหนดที่ได้ออกแบบคำนวณไว้หรือไม่📢 เช่น งานชั้นรองพื้นทาง (subbase) ชั้นพื้นทาง (base) จะต้องบดอัดให้ได้ 100%👉 งานชั้นดินเดิม และดินถมจะต้องบดอัดให้ได้ 95%✨ การบดอัดนี้จะต้องมีการควบคุมความชื้นในดินและพลังงานที่จะใช้ในการบดอัดให้พอเพียงและประหยัด⚡ ถ้าจำนวนเที่ยวที่บดอัดมากเกินไปก็จะสิ้นเปลืองทั้งค่าแรงงานและค่าน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ถ้าบดอัดน้อยไปก็จะไม่ได้ความแน่นที่ต้องการจะต้องกลับมาทำงานซ้ำอีก✅
⚡🛒🦖การการประเมินความหนาแน่นของดิน👉 คือ หาน้ำหนักของดินที่บดอัดแล้วหารด้วยปริมาตรของหลุม🦖 และการที่จะหาปริมาตรของหลุมที่กล่าวนี้ จำเป็นจะต้องวัดหรือใช้วัสดุที่รู้ความแน่น (density) และความถ่วงจำเพาะแน่นอน แล้วไปแทนที่ในหลุมที่ขุดดินขึ้นมา🎯 ซึ่งการทดสอบดังกล่าวอาจกระทำได้โดยวิธีใช้ทรายมาตรฐาน (Sand Cone Method) ช่วยในการทดสอบหรือใช้น้ำ (Balloon Density Method) ทั้งสองวิธีนี้ต่างก็อาศัยหลักอันเดียวกัน📌
🌏🌏🌏🌏ขั้นตอนการทดสอบ การทดสอบความหนาแน่นในสนาม📢📌📌📌🛒📢🌏⚡🛒1. ปรับพื้นผิวทดสอบให้เรียบขนาด 450×450 เซนติเมตร🛒 จากนั้นก็วางแผ่นฐานรองและตอกตะปูยึดให้แน่น🌏 ปัดฝุ่นที่ผิวดินและแผ่นฐานออก👉
👉📢🌏🌏2. ใช้สกัดเจาะดินตรงกลางแผ่นฐาน⚡ และก้นหลุมที่เจาะจะต้องมีขนาดเท่ากับปากหลุมเจาะดินที่ขุดจากหลุมจะต้องเก็บให้หมดโดยใช้ช้อนเล็กตัก📢 ใช้แปรงปัดเศษดินในกรณีเหลือดินน้อย🥇
📌🦖🎯🌏3. นำดินที่ขุดมาชั่งและบันทึกค่า แล้วนำดินส่วนหนึ่งไปหาค่าความชื้น⚡
🥇🛒📌🌏4. ทำการคว่ำกรวยทรายที่เตรียมไว้แล้วลงบนปากหลุมโดยให้กรวยทรายพอดีกับแผ่นฐานรองแล้วเปิดวาล์ว ระวังอย่าให้เกิดการกระทบกระเทือนในขณะปล่อยทรายลงหลุม เพราะจะทาให้ค่าที่ได้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง✨
✨🥇🛒✨5. สังเกตว่าเมื่อทรายที่ปล่อยลงหลุมหยุดไหลแล้ว ก็ทำการปิดวาล์วแล้วนำทรายที่เหลืออยู่ในกรวยไปชั่งน้ำหนักพร้อมกับกรวยทรายและจดบันทึกค่าไว้🌏
✨🥇🛒🌏6. นำทรายที่อยู่ในหลุมใส่ลงในกระป๋องเก็บทรายตามเดิมโดยพยามอย่าให้มีดินที่อยู่ในก้นหลุมติดทรายขึ้นมาด้วย เพราะว่าทรายที่เก็บขึ้นมาจะต้องทดสอบในหลุมอื่นๆ อีกต่อไป✨
Tags :
เจาะสำรวจชั้นดิน (https://groups.google.com/g/comp.lang.clipper.visual-objects/c/50Szym-PfJg)